วันจันทร์ที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2551

ข้อสอบปรนัย 5 ข้อ

1.Topology หมายถึง
1. รูปแบบของการเชื่อมโยงเครือข่าย
2. ลักษณะทางกายภาพ (ภายนอก) ของระบบเครือข่าย
3. ลักษณะของการเชื่อมโยงสายสื่อสารเข้ากับอุปกรณ์ อิเล็กทรอนิกส์
4. ถูกทุกข้อ

2.โทโปโลยีแบบบัส (BUS) มีรูปแบบเป็นแบบใด
1. เครื่องคอมพิวเตอร์จะถูกเชื่อมต่อกันโดยผ่ายสายสัญญาณแกนหลัก
2. เครื่องคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องในระบบเครือข่าย ทุกเครื่องถูกเชื่อมต่อกันเป็นวงกลม
3. เครื่องคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องที่เชื่อมต่อเข้าด้วยกันในเครือข่าย จะต้องเชื่อมต่อกับ ฮับ (HUB)
4. สามารถป้องกันการผิดพลาดที่อาจจะเกิดขึ้นกับระบบได้ดีที่สุด

3.รูปแบบที่ ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางของการเชื่อมต่อสายสัญญาญที่มาจากเครื่องต่าง ๆ ในเครือข่าย คือ
1. โทโปโลยีแบบบัส (BUS)
2. โทโปโลยีแบบวงแหวน (RING)
3. โทโปโลยีแบบดาว (STAR)
4. โทโปโลยีแบบ Hybrid

4.การเชื่อมต่อระบบเครือข่าย Lan นั้น สามารถแบ่งออกเป็นกี่ประเภทใหญ่ ๆ
1. 1 ประเภท
2. 2 ประเภท
3. 3 ประเภท
4. 4 ประเภท

5.Topology รูปแบบใดต่อไปนี้ที่ยากต่อการเดินสายและมีราคาแพง
1. โทโปโลยีแบบบัส (BUS)
2. โทโปโลยีแบบวงแหวน (RING)
3. โทโปโลยีแบบดาว (STAR)

4. โทโปโลยีแบบ MESH

วันอาทิตย์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2551

Topology

Topology
รูปแบบของการเชื่อมโยงเครือข่าย หรือโทโปโลยี (LAN Topology)โทโปโลยีคือลักษณะทางกายภาพ (ภายนอก) ของระบบเครือข่าย ซึ่งหมายถึง ลักษณะของการเชื่อมโยงสายสื่อสารเข้ากับอุปกรณ์ อิเล็กทรอนิกส์และเครื่องคอมพิวเตอร์ ภายในเครือข่ายด้วยกันนั่นเอง โทโปโลยีของเครือข่าย LAN แต่ละแบบมีความเหมาะสมในการใช้งาน แตกต่างกันออกไป การนำไปใช้จึงมีความจำเป็นที่เราจะต้องทำการศึกษาลักษณะและคุณสมบัติ ข้อดีและข้อเสียของโทโปโลยีแต่ละแบบ เพื่อนำไปใช้ในการออกแบบพิจารณาเครือข่าย ให้เหมาะสมกับการใช้งาน รูปแบบของโทโปโลยี ของเครือข่ายหลัก ๆ มีดังต่อไปนี้
1.โทโปโลยีแบบบัส (BUS) เป็นรูปแบบที่ เครื่องคอมพิวเตอร์จะถูกเชื่อมต่อกันโดยผ่ายสายสัญญาณแกนหลัก ที่เรียกว่า BUS หรือ แบ็คโบน (Backbone) คือ สายรับส่งสัญญาณข้อมูลหลัก ใช้เป็นทางเดินข้อมูลของทุกเครื่องภายในระบบเครือข่าย และจะมีสายแยกย่อยออกไปในแต่ละจุด เพื่อเชื่อมต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์เครื่องอื่น ๆ ซึ่งเรียกว่าโหนด (Node)
2.โทโปโลยีแบบวงแหวน (RING) เป็นรูปแบบที่ เครื่องคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องในระบบเครือข่าย ทั้งเครื่องที่เป็นผู้ให้บริการ( Server) และ เครื่องที่เป็นผู้ขอใช้บริการ(Client) ทุกเครื่องถูกเชื่อมต่อกันเป็นวงกลม ข้อมูลข่าวสารที่ส่งระหว่างกัน จะไหลวนอยู่ในเครือข่ายไปใน ทิศทางเดียวกัน โดยไม่มีจุดปลายหรือเทอร์มิเนเตอร์เช่นเดียวกับเครือข่ายแบบ BUS ในแต่ละโหนดหรือแต่ละเครื่อง จะมีรีพีตเตอร์ (Repeater) ประจำแต่ละเครื่อง 1 ตัว ซึ่งจะทำหน้าที่เพิ่มเติมข้อมูลที่จำเป็นต่อการติดต่อสื่อสารเข้าในส่วนหัวของแพ็กเกจที่ส่ง และตรวจสอบข้อมูลจากส่วนหัวของ Packet ที่ส่งมาถึง ว่าเป็นข้อมูลของตนหรือไม่ แต่ถ้าไม่ใช่ก็จะปล่อยข้อมูลนั้นไปยัง Repeater ของเครื่องถัดไป
3.โทโปโลยีแบบดาว (STAR) เป็นรูปแบบที่ เครื่องคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องที่เชื่อมต่อเข้าด้วยกันในเครือข่าย จะต้องเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ตัวกลางตัวหนึ่งที่เรียกว่า ฮับ (HUB) หรือเครื่อง ๆ หนึ่ง ซึ่งทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางของการเชื่อมต่อสายสัญญาญที่มาจากเครื่องต่าง ๆ ในเครือข่าย และควบคุมเส้นทางการสื่อสาร ทั้งหมด เมื่อมีเครื่องที่ต้องการส่งข้อมูลไปยังเครื่องอื่น ๆ ที่ต้องการในเครือข่าย เครื่องนั้นก็จะต้องส่งข้อมูลมายัง HUB หรือเครื่องศูนย์กลางก่อน แล้ว HUB ก็จะทำหน้าที่กระจายข้อมูลนั้นไปในเครือขายต่อไป
4.โทโปโลยีแบบ Hybrid เป็นรูปแบบใหม่ ที่เกิดจากการผสมผสานกันของโทโปโลยีแบบ STAR , BUS , RING เข้าด้วยกัน เพื่อเป็นการลดข้อเสียของรูปแบบที่กล่าวมา และเพิ่มข้อดี ขึ้นมา มักจะนำมาใช้กับระบบ WAN (Wide Area Network) มาก ซึ่งการเชื่อมต่อกันของแต่ละรูปแบบนั้น ต้องใช้ตัวเชื่อมสัญญาญเข้ามาเป็นตัวเชื่อม ตัวนั้นก็คือ Router เป็นตัวเชื่อมการติดต่อกันรือข่ายต่อไป
5.โทโปโลยีแบบ MESH เป็นรูปแบบที่ถือว่า สามารถป้องกันการผิดพลาดที่อาจจะเกิดขึ้นกับระบบได้ดีที่สุด เป็นรูปแบบที่ใช้วิธีการเดินสายของแต่เครื่อง ไปเชื่อมการติดต่อกับทุกเครื่องในระบบเครือข่าย คือเครื่องทุกเครื่องในระบบเครือข่ายนี้ ต้องมีสายไปเชื่อมกับทุก ๆ เครื่อง ระบบนี้ยากต่อการเดินสายและมีราคาแพง จึงมีค่อยมีผู้นิยมมากนักประเภทของระบบเครือข่าย Lan ซึ่งแบ่งตามลักษณะการทำงานในการแบ่งรูปแบบการเชื่อมต่อระบบเครือข่าย Lan นั้น สามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ ได้แก่การเชื่อมต่อแบบ Peer - To - Peer และแบบ Client / Server

การจัดรูปโครงสร้างของอุปกรณ์สื่อสารเพื่อจัด ของเครื่องถัดไปงเป็นระบบเครือข่ายสามารถกระทำได้หลายแบบดังนี้
1. ระบบเครือข่ายที่แบ่งประเภทโดยพิจารณาจากการจัดโครงสร้างอุปกรณ์เป็นหลัก เรียกว่า การจัดรูปทรงระบบเครือข่าย (Topology) ได้แก่ ระบบเครือข่ายแบบดาว แบบบัส และแบบวงแหวน เป็นต้น
2. ระบบเครือข่ายตามขนาดทางกายภาพของระยะทางในการส่งข้อมูลเป็นหลัก ได้แก่ เครือข่ายเฉพาะบริเวณ (LAN) เครือข่ายในเขตเมือง (MAN) เครือข่ายวงกว้าง (WAN) และเครือข่ายสหภาค (Internetwork)
3. ระบบเครือข่ายที่พิจารณาจากขอบเขตการใช้งานขององค์กร เช่น เครือข่ายอินทราเนต (Intranet) เครือข่ายเอ็กซ์ทราเนต( Extranet) และเครือข่ายสากล (Internet)การจัดรูปทรงระบบเครือข่าย (Topology)

e-learning



มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์


มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง


มหาวิทยาลัยพายัพ


มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย


มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ


มหาวิทยาลัยขอนแก่น


เกษมบัณฑิต


มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต


มหวิทยาลัยเทคโนดลยีสุรนารี


มหวิทยาลัยหัวเฉลียวเฉลิมพระเกียรติ


เครือข่ายคอมพิวเตอร์และการกระจาย รหัสวิชา 4122102


เครือข่ายคอมพิวเตอร์และการกระจาย รหัสวิชา 4122102


ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ การสื่อสารระหว่างคอมพิวเตอร์กับเทอร์มินอลขั้นของ โปรโตคอลมาตราฐาน OSI รูปแบบต่างๆของเครือข่ายX.25Networkและดิจิตอล Network การประมวลผลแบบตาม ลำดับและแบบขนาน การไปป์ไลน์(Pipelining) การประมวลผลแบบ เวคเตอร์ ( vecter Processing )การประมวลผลแบบอะเรย์ ( Array Processors ) มัลติโพรเซสเซอร์และฟอลท์โทเลอร์แรนซ์ ( Fault Tolerance )


วันอังคารที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2551

"เรียน 11 มิถุนายน 2551"

basic ‘s data communication

การย้ายข้อมูลจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง เพื่อให้เกิดประโยชน์เทคโนโลยีสมัยนี้มีการเชื่อมต่อกันทั่วโลกWhy Study Data Communication? เพื่อที่จะได้วิธีการย้ายข้อมูลที่ถูกต้อง และในสมัยก่อนมีความลำบากมากในการสื่อสาร จึงนำมาเป็นตัวแทนในการสื่อสารนิยามการสื่อสารข้อมูลการสื่อสารข้อมูล หมายถึง กระบวนการถ่ายทอด หรือการรับ-ส่งข้อมูล จากจุดใดจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่ง ผ่านสื่อชนิดใดๆก็ได้ โดยข้อมูลจะหมายถึง ข้อความ รูปภาพ หรือสัญลักษณ์ก็ได้ การสื่อสารข้อมูลโดยปกติเกิดขึ้นระหว่าง อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หรือคอมพิวเตอร์ตั้งแต่ 2 เครื่องขึ้นไป

ความหมาย ของ Basic’s IP Address

IP Address คือหมายเลขประจำเครื่องคอมพิวเตอร์ ซึ่งประกอบด้วยตัวเลข 4 ชุด มีเครื่องหมายจุดขั้นระหว่างชุด
การสื่อสารและรับส่งข้อมูลในระบบ Internet สิ่งสำคัญคือที่อยู่ของคอมพิวเตอร์แต่ละเครื่อง ดังนั้นเพื่อให้เกิดความถูกต้องแม่นยำ จึ่ง ได้มีการกำหนดหมายเลขประจำเครื่องที่เราเรียกว่า IP Address และเพื่อไม่ให้เกิดความสับสนและซ้ำกัน จึงได้มีการก่อตั้งองค์กรเพื่อ แจกจ่าย IP Address โดยเฉพาะ ชื่อองค์กรว่า Inter NIC (International Network Information Center) อยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา การแจกจ่ายนั้นทาง Inter NIC จะแจกจ่ายเฉพาะ Network Address ให้แต่ละเครือข่าย ส่วนลูกข่ายของเครื่อง ทางเครือข่ายนั้นก็จะเป็น ผู้แจกจ่ายอีกทอดหนึ่ง ดังนั้นพอสรุปได้ว่า IP Address จะประกอบด้วยตัวเลข 2 ส่วน คือ 1. Network Address 2. Computer Address การแบ่งขนาดของเครือข่าย เราสามารถแบ่งขนาดของการแจกจ่าย Network Address ได้ 3 ขนาดคือ
1. Class A nnn.ccc.ccc.ccc (nnn ชุดแรก ตัวเลขอยู่ระหว่าง 1-126) เครือข่าย Class A สามารถแจกจ่าย IP Address ได้มากที่สุดถึง 16 ล้านหมายเลข
2. Class B nnn.nnn.ccc.ccc (nnn ชุดแรก ตัวเลขอยู่ระหว่าง 128-191) เครือข่าย Class A สามารถแจกจ่าย IP Address ได้มากเป็นอันดับสอง คือ 65,000 หมายเลข
3. Class c nnn.nnn.nnn.ccc (nnn ชุดแรก ตัวเลขอยู่ระหว่าง 192-233) เครือข่าย Class A สามารถแจกจ่าย IP Address ได้น้อยที่สุด คือ 256 หมายเลข
nnn หมายถึง Network Address ccc หมายถึง Computer Address หมายเลขต้องห้าม เนื่องจากเครือข่ายก็อาจจำเป็นต้องใช้ IP Address ดังนั้น จึงจำเป็นต้องมีการจำกัดบางหมายเลขเพื่อใช้เป็นการภายใน ได้แก่


1. Class A ตั้งแต่ 10.xxx.xxx.xxx
2. Class B ตั้งแต่ 172.16.xxx.xxx ถึง 172.31.xxx.xxx
3. Class C ตั้งแต่ 192.168.0.xxx ถึง 192.168.255.xxx

สำหรับภายในองค์กร ก็มีหมายเลขต้องห้ามเช่นกัน ได้แก่
1. 127.xxx.xxx.xxx หมายเลขนี้ใช้สื่อสารกับตัวเอง
2. 0.0.0.0

แปลง IP

209.123.226.168
11010001 01111011 11100010 10101000

198.60.70.81
11000110 00111100 01000110 01010001


CIDR

/22
11111111.11111111.11111100.00000000
Subnet Mask = 255. 255. 252. 0
จำนวน Host = (2^10) - 2 = 1024 - 2 = 1022 Host

/18
11111111.11111111.11000000.00000000
Subnet Mask = 255. 255. 192. 0
จำนวน Host = (2^14) -2 = 16384 -2 = 16382 Host

/27
11111111.11111111.11111111.11100000
Subnet Mask = 255. 255. 255. 240
จำนวน Host = (2^5) – 2 = 32 – 2 = 30 Host

ข้อสอบเรื่อง IP 5 ข้อ

1. IP Address มีอยู่กี่บิต

ก. 4 บิต

ข. 8 บิต

ค. 16 บิต

ง. 32 บิต

2.คำว่า IP ย่อมาจาก

ก. International Protocol

ข. Internet Protocol

ค. introduck Protocol

ง. ไม่มีข้อใดถูก

3.protocol หลักของ Internet ก็คือ

ก. TCP/IP

ข. TCD/IP

ค. IPP

ง. OOP/IP

4.ไอพีแอดเดรสเป็นไปในลักษณะใด

ก.มีขนาดช่องทางที่ใหญ่

ข. มีขนาด 32 บิต

ค. มีตำเลขจำนวนมาก

ง.มี16บิต

5.ข้อใดคือความสำคัญของเลขเครือข่ายและโฮสต์

ก. มีช่องทางกว้าง

ข.รวดเร็ว

ค.สื่อสารกันได้โดยใช้เฟรม data-link

ง.มีจำนวนบิตมาก

เฉลย

1.ง 2.ข 3.ก 4.ข 5.ค

ข้อสอบเรื่อง CIDR 5 ข้อ

1.รูปแบบของการส่งสัญญาข้อมูลมีกี่รูปแบบ

ก.2.รูปแบบ

ข.3.รูปแบบ

ค4.รูปแบบ

ง.5.รูปแบบ

2.CIDR ย่อมาจากอะไร

ก. Classless Inter Dynamic Routing

ข.Class Inter – Domain Routing

ค.Clear Inter – Domain Routing

ง.Classless Inter-Domain Routing

3.ข้อดี ของการสื่อสารผ่านดาวเทียมคือ

ก.ส่งข้อมูลได้มาก และมีความผิดพลาดน้อย

ข. อาจจะมีความล่าช้าเพราะระยะทางระหว่างโลกกับดาวเทียม

ค.ถ้าสภาพอากาศไม่ดีก็อาจจะก่อให้เกิดความผิดพลาดได้

ง.ไม่มีข้อถูก

4.CIDR มีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าอะไร

ก. broadcast

ข. subnet

ค. Super net

ง. ไม่มีข้อถูก

5.หมายเลข Host มีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าอะไร

ก. Prefix

ข. Suffix

ค. Perfix

ง. ถูกทั้งข้อ ก และ ค

เฉลย

1.ข 2.ง 3.ก 4.ค 5.ข

วันอังคารที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2551

เพื่อน

เพื่อนห้อง 1

kimsath sath (kimsathsath@yahoo.com)http://kimsath.blogspot.com/

Gus m (guszaa_m@hotmail.com)http://guszaa.blogspot.com/

นายจำนงค์ ศรีมาศ (srimas2007@hotmail.com)http://jumnong.blogspot.com/

ชยาพงษ์ วังตะเคน (mo.04@hotmail.com)http://thekop-momo.blogspot.com

sulak Phonboon (sulak_laky@hotmail.com)http://sulak-noy.blogspot.com/

khamsan khampang (khampang3@hotmail.com)http://khampang.blogspot.com/

ชาตรี แก้วมณี (chatree_05@thaimail.com)http://chatree-ton.blogspot.com/

มยุลี เสมศรี (mayulee8787@hotmail.com)http://mayulee8787.blogspot.com/

นางสาว จันทร์ กฤษวี (janjun1@hotmail.com)http://janjun.blogspot.com/

นางสาวประภาศิริ สุทธิหนู(nemo_yung@hotmail.com)http://lylulnlgl.blogspot.com/

sam an leakmuny (leakmuny@yahoo.com)http://leakmuny-sam.blogspot.com/

ณัชพร ไชยมูล (clash_oud@hotmail.com)http://khukhan-bantim.blogspot.com/

วาฤดี สัมนา (waruedee_49@hotmail.com)http://waruedee.blogspot.com/

warawood wisetmuen (nicnicnic_02@hotmail.com)http://warawood.blogspot.com/

r y (overnarn@hotmail.com)http://tcomtoo.blogspot.com/

สุพรรษา ท่วาที (supansa_56@hotmail.com)http://puy-supansa.blogspot.com/

อรอุมา พละศักดิ์ (tep_ratree@hotmail.com)http://tepratree.blogspot.com/

สายรุ่ง พงษ์วัน (sayrung_@hotmail.com)http://koraikoo.blogspot.com/

พรพรรณ สังขาว (aaa.37@hotmail.com)http://oake-pornpan.blogspot.com/

นายเทิดศักดิ์ บุญรินทร์ (ton_therdsak783@hotmail.com)http://tonstaff.blogspot.com/

นิพนธ์ ทรัพย์ประเสริฐ (nipoon_karn@hotmail.com)http://karnline.blogspot.com/

ทัสนีย์ ประสาร (tatsanee_1234@thaimail.com)http://ningza-tatsanee.blogspot.com/

wasan dujda (nong2445572@hotmail.com)http://newcastle-wasan.blogspot.com/

นิพนธ์ ทรัพย์ประเสริฐ์ (kan-49@hotmail.com)http://teerapon123.blogspot.com/

sophang sophaly (phangsophaly@hotmail.com)http://sophaly-phang.blogspot.com/


เพื่อนห้อง 2

Chaloempol Yokyuth (geng_gtr@hotmail.com)http://chaloempol.blogspot.com/

Parina Polngam (nongnanfar@hotmail.com)http://parina-nang.blogspot.com/

ณัฐวุฒิ วรรณา (kon.jai.ray@hotmail.com)http://e-wutdy.blogspot.com/

วีระชัย ชินทอง (weerachaidong@hotmail.com)http://weedong.blogspot.com/

ศิริลักษณ์ ใจโชติ (tum.naruk@hotmail.com)http://pinkzosay.blogspot.com/

นางสาวธนาภา บุญร่วม (tip21_@hotmail.com)http://tanapa.blogspot.com/

ความรักทำให้คนตาบอด บูดาเบส (b_boy.eg@hotmail.com)

นายเอกวิทย์ ประทีปธนากร 491225226 http://ekawit.blogspot.com/

pornpun intanun (nuthicha@hotmail.com)http://nuthicha.blogspot.com/

นางสาวสุนันทา จันมนตรี (rosri21@hotmail.com)http://rosri.blogspot.com/

นิโรบล ศรีวิชัยยศ (tanoy17@hotmail.com)http://yakumi-tanoy.blogspot.com/

ธวัชชัย ปรือปรัง (sek.7@hotmail.com)http://dekduecub.blogspot.com/

นายสุวัฒน์ บัวจันทร์ (kero_pee_1@hotmail.com)http://keropee.blogspot.com

ประครอง วันทะวงษ์ (auto_7991@hotmail.com)http://roseka.blogspot.com/

ชัชวาล ถิ่นนาไห (dexonhud@hotmail.com)URL: http://chadchawal.blogspot.com/

สมปอง แสงสิงห์ (sompong.sangsing@hotmail.com)http://sompong19.blogspot.com

ธงชัย ราชสิฃห์ (pktp_9@hotmail.com)http://dexhudmai.blogspot.com/

วิทยา สุดหล้า (teawit.la@hotmail.com)http://longchimyung.blogspot.com/

ที่มาของข้อสอบ OSI Model

http://www.udonoa.com/www-tam/Knowledge/OSImodel.html